การทำฟันปลอม

ฟันปลอม หมายถึงฟันที่ถูกทำขึ้นเพื่อใช้ทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป ซึ่งจะช่วยให้เรื่องความสามารถในการบดเคี้ยวอาหารให้มีประสิทธิภาพเหมือนเดิม และยังช่วยป้องกันฟันซี่ข้างเคียงของฟันที่หายไปล้มหรือเอียงได้ นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องความมั่นใจ และภาพลักษณ์ที่ดีของแต่ละบุคคลด้วย

ประเภทของฟันปลอม

• ฟันปลอมชนิดถอดได้ เป็นฟันปลอมสำหรับผู้ที่มีฟันธรรมชาติเหลืออยู่บ้าง มีข้อดีที่สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้และยังสามารถใส่ฟันได้หลายซี่และมีราคาค่อนข้างถูกกว่าฟันปอมชนิดอื่นๆ ส่วนข้อเสียคือ อาจจะมีการเลื่อนหรือเกิดความไม่สบายปากในการพูดหรือเคี้ยวอาหาร รวมทั้งยังตะขอที่ใช้เกี่ยวอาจจะทำให้เกิดความไม่สวยงามด้วย ส่วนในเรื่องของการดูแลทำความสะอาด ต้องถอดทำความสะอาดทุกคืนก่อนนอน โดยการใช้แปรงสีฟันขัดให้ทั่วจากนั้นให้แช่น้ำสะอาดไว้ ห้ามใส่ฟันปลอมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะควรให้เหงือกที่รองรับฟันปลอมได้พักบ้าง ซึ่งฟันปลอมชนิดถอดได้นั้นยังแบ่งได้เป็น ฟันปลอมโครงโลหะ, ฟันปลอมโครงอะคริลิก, ฟันปลอมถอดได้ทั้งปาก

• ฟันปลอมชนิดติดแน่น เป็นฟันปลอมชนิดถาวรที่ยึดติดแน่นอยู่ในช่องปาก เหมาะสำหรับผู้ที่ยังหลงเหลือฟันแท้อยู่ในช่องปาก เพราะต้องใช้ฟันธรรมชาติที่อยู่ข้างเคียงเป็นหลักในการยึดฟันปลอม เมื่อติดแล้วคนไข้จะไม่สามารถนำฟันปลอมออกจากปากเองได้ มีข้อดีที่การใช้งานเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะไม่มีส่วนของเหงือกปลอม ตะขอเกี่ยว ทำให้เรารู้สึกเกะกะไม่สบายช่องปาก การบดเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับฟันธรรมชาติ ให้ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเหงือก และยังมีความแข็งแรงใช้งานได้อย่างไม่ได้กังวลอีกด้วย ส่วนข้อเสียนั้นคือขั้นตอนการทำฟันปลอมชนิดถาวรจะมีการกรอฟันซี่ข้างเคียง ทำให้คนไข้สูญเสียเนื้อฟันไปบางส่วน นอกจากนี้ฟันปลอมแบบติดแน่นไม่สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ หากผู้ทำไม่ดูแลความสะอาดของช่องปากอย่างเหมาะสมฟันที่อยู่ซี่ข้างเคียงอาจจะเกิดอาการผุหรือเป็นโรคเหงือกได้

การดูแลรักษาฟันปลอมชนิดถอดได้

1. การใส่ฟันปลอมที่ถูกต้องควรใช้นิ้วมือช่วยใส่ให้เข้าที่ อย่าใช้ฟันกัดลงไป เพราะในฟันปลอมบางส่วนมีตะขอเกี่ยว อาจจะทำให้ตะขอบิดเบี้ยว เสียงรูปร่าง และอาจทำให้ฟันปลอมร่วงแตกเสียหายได้
2. ในระยะแรกที่ใส่ฟันปลอม คนไข้จะรู้สึกไม่สบายปาก รำคาญ พูดไม่ชัด มีน้ำลายไหลออกมามากกว่าปกติ รับประทานอาหารไม่ถนัด แต่เมื่อใส่ไปสักพักเราจะเริ่มปรับตัวได้เอง แต่หากเกิดอาการเจ็บหรือมีแผลจากการใส่ฟันปลอม ควรรีบกลับไปให้ทันตแพทย์ตรวจและแก้ไขฟันปลอม และที่สำคัญไม่ควรใช้มือ หรืออุปกรณ์อื่นๆทำการแก้ไข หรือซ่อมฟันปลอมเอง เพราะอาจจะทำให้เสียรูปไปทั้งหมด และไม่สามารถใส่เข้าที่ได้อีกเลย
3. การรับประทานอาหาร คนที่ใส่ฟันปลอม ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เหนียว โดยเฉพาะคนที่ใส่ฟันปลอมซี่หน้า เพราะฟันปลอมอาจจะหลุด หรืออาจทำให้เกิดความเสียหาย และรู้สึกระบมเหงือกได้
4. การทำความสะอาด ควรทำความสะอาดฟันปลอมทุกครั้งหลังทานอาหาร และก่อนเข้านอน ด้วยการถอดออกมาล้าง และขัดด้วยแปรงเบาๆ ใช้สบู่ หรือยาสีฟันในการทำความสะอาด ที่สำคัญห้ามนำฟันปลอมไปลวก ล้าง หรือแช่ในน้ำร้อนเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ฟันปลอมบิดเบี้ยวหดตัวและเสียหายไม่สามารถนำกลับมาใส่อีกได้
5. คนที่ดูแลฟันปลอมไม่สะอาดอาจทำให้เกิดปัญหากลิ่นปากได้ เพราะฉนั้นจะต้องดูแลสุขภาพช่องปาก และฟันอย่างถูกต้อง และสม่ำเสมอ
6. การทำความสะอาดช่องปาก หลังถอดฟันปลอมแล้ว ให้แปรงฟันที่เหลือในช่องปากของเรา ด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธีและเลือกแปรงที่เหมาะสม ส่วนผู้ที่ไม่มีฟันเหลืออยู่เลย เหงือกก็ต้องดูแลให้สะอาดด้วย โดยการแปรงขนนิ่มๆ หรือผ้าชุบน้ำเช็ดเหงือกให้สะอาด
7. เมื่อทำความสะอาดฟันปลอมและช่องปากของเราเรียบร้อยแล้ว ให้นำฟันปลอมแช่น้ำสะอาดเอาไวในตอนกลางคืนที่เราพักผ่อน เพื่อให้เนื้อเยื่อในช่องปากได้พักด้วย แต่หากไม่สามารถถอดฟันปลอมตอนกลางคืนได้ ก็ควรจะถอดแช่น้ำให้ตอนเช้าหรือบ่าย อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการใส่ฟันปลอมไว้ตลอดเวลา อาจจะทำให้เนื้อเยื่อบนเหงือกเกิดการอักเสบได้

การทำฟันปลอม สามารถช่วยทดแทนฟันที่สูญเสียไปได้ แต่หลายคนยังเชื่อว่าฟันปลอมเป็นฟันสำหรับคนสูงอายุ แต่ความจริงแล้วในปัจจุบันฟันปลอมถูกพัฒนาให้มีความสะดวกสบาย ช่วยในเรื่องของภาพลักษณ์และการบดเคี้ยวอาหารที่สมบูรณ์เหมือนดั่งเดิมได้ แต่ก่อนที่จะจำเป็นต้องใส่ฟันปลอม เราควรดูแลฟันแท้ของเราให้สะอาดและปราศจากโรคอยู่เสมอ ด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟัน น้ำยาบ้วนปากเป็นประจำ เพื่อให้ฟันแท้ของคุณอยู่กับคุณไปนานๆ จะได้ไม่ต้องมาพึ่งพาฟันปลอม